หูฟังจากทาง JBL ในรุ่น Tune Flex นั้นเป็นหูฟังที่มีดีไซน์โดดเด่นสามารถเป็นได้ทั้งหูฟังสไตล์ in ear และสไตล์ earbuds มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวันอีกด้วยครับ การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้นหูฟัง JBl Tune Flex จะมีดีไซน์ที่ไม่ซ้ําใครโดยสามารถเป็นได้ทั้งหูฟังสไตล์ in ear และสไตล์ earbuds ในตัวเดียวกันตัวบอดี้ของหูฟังถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างสบาย พกพาสะดวก ตัวหูฟังใช้การควบคุมด้วยระบบสัมผัสและทําให้ไม่มีปุ่มกดใดๆ บนตัวหูฟัง โดยในกล่องจะมาพร้อมกับจุกหูฟัง 2 สไตล์และเคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ครับ อุปกรณ์ภายในกล่อง - JBL Tune Flex - เคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ - ชุดจุกหูฟังซิลิโคน - จุก open eartip - สาย USB - คู่มือการใช้งาน การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้นหูฟัง JBL Tune Flex จะใช้การเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 5.2 โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและเมื่อใช้งานร่วมกับเคสจะสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 32 ชั่วโมง ตัวหูฟังยังรองรับการ Fast Charge ที่ชาร์ตเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานถึง 2 ชั่วโมง (ระยะเวลาของการใช้งานจะขึ้นอยู่กับระดับเสียงและฟังก์ชันที่ใช้งาน) ภายในของหูฟัง JBL Tune Flex จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 12 มม ที่จากแบรนด์ปรับปรุงขึ้นมาทําให้สามารถตอบสนองความถี่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้รายละเอียด เสียงที่ครบถ้วน มาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 4 ตัว ทําให้สามารถรับเสียงสนทนาได้อย่างคมชัด จุดเด่นของหูฟัง JBL Tune Flex ก็คือระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ที่สามารถตัดเสียงรบกวนต่างๆจากภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ตัวหูฟังยังมีฟังก์ชัน Ambient Aware สําหรับดูดเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างใช้งาน ทําให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบตัวแม้จะไม่ได้ถอดหูฟังออกก็ตาม นอกจากนี้ยังหูฟังยังรองรับการปรับแต่งฟังก์ชันต่างๆได้ผ่านแอป JBL Headphones App ได้อีกด้วย ในส่วนของการป้องกันน้ํานั้น JBL Tune Flex สามารถป้องกันน้ําได้ในระดับ IPX4 ทําให้สามารถใส่ออกกําลังกายหรือทํากิจกรรมกลางแจ้งได้แต่อย่างไรก็ตามตัวหูฟังจะไม่สามารถใส่อาบน้ําหรือใส่ว่ายน้ําได้ครับ คุณภาพเสียง ในส่วนคุณภาพเสียงนั้น JBL Tune Flex นั้นจะแยกเสียงเป็นสองแบบ แบบที่ 1 ในสไตล์ In-Ear จะให้เบสที่มาเป็นลูกใหญ่มีความกระแทกกระทั้นดุดันแต่คุมมวลเสียงได้ดีไม่ล้นไปกวนเสียงกลาง ให้เสียงร้องที่ติดอุ่นเล็กน้อยมีน้ํามีนวล เวทีเสียงขนาดปานกลางและให้เสียงสูงมีความสดสว่างฟังเพลงได้สนุกคึกคักเลยทีเดียวครับ แบบที่ 2 ในสไตล์ของ Earbuds ถือว่าเป็นรุ่นที่ให้เสียงได้กว้างขวาง รู้สึกโปร่งไม่อับทึบ เสียงเบสเก็บตัวไวขึ้นกว่าแบบ In-Ear แต่ยังคงมีแรงปะทะที่มากพอสําหรับหูฟัง Earbuds จึงไม่รู้สึกขาดเบสไป เสียงเครื่องสายชัดเจนขึ้นใสขึ้น เสียงสูงลดความสดลงเล็กน้อยแต่ได้ความเป็นธรรมชาติเพิ่มขึ้นครับ โดยรวมแล้วไม่ว่าจะใช้งานในสไตล์ของหูฟัง In-Ear หรือ Earbuds ก็ให้เสียงที่เหมาะสมและฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมได้อย่างครบครันสุด ๆ เลยทีเดียว สรุปเกี่ยวกับหูฟัง JBL Tune Flex โดยรวมแล้วหูฟัง JBL Tune Flex เป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่นไม่ซ้ําใคร ตัวหูฟังสามารถเป็นได้ทั้งหูฟังสไตล์ in ear และสไตล์ earbuds ในตัวเดียวกัน มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และฟังก์ชัน Ambient Aware สําหรับดูดเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างการใช้งานโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ท
Altec Lansing สวมใส่สบายกระชับไม่หลุดง่าย ไดรฟ์เวอร์ Miniaturized เสียงดีฟังสนุก หูฟังแฟชั่นรูปเพชร รองรับ MP3 Players, iOS, Android Altec Lansing หูฟัง In-Ear รุ่น Mzx436R สีชมพู คุณสมบัติ Altec Lansing หูฟัง In-Ear รุ่น Mzx436R Bliss Gold-สีชมพู เป็นหูฟังอินเอียร์ In-Ear รุ่นใหม่ ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเพื่อทําให้มั่นใจในขณะสวมใส่ทําให้กระชับไม่หลุดร่วงง่าย ไดรฟ์เวอร์ที่ใช้เป็นแบบ Miniaturized ให้รายละเอียด เสียงที่ครบถ้วนสมบรูณ์ ฟังสนุกฟังเพลิน ตัวบอดี้ออกแบบรูปทรงคล้ายเพชร ดูหรูหราแฟชั่นทันสมัย เข้ากันได้ดีกับ Mp3 Players, Ipods, Smartphones And Tablets
ลําโพงพกพาจากทาง JBL ในรุ่น GO 4 พร้อมสําหรับการยกระดับประสบการณ์ฟังเพลงของคุณได้แล้ววันนี้ ด้วยลําโพงพกพาไซส์เล็ก ที่มอบเสียงอันทรงพลัง พร้อมลุยไปกับคุณได้ทุกที่แล้ววันนี้ที่ มั่นคงแก็ดเจ็ททุกสาขา การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้นลําโพง JBL GO 4 จะเป็นลําโพงพกพาที่มีขนาดเล็กมากๆ ประมาณหนึ่งฝ่ามือเท่านั้น โดยคราวนี้ทางแบรนด์จะดีไซน์ตัวลําโพงให้มีความเป็นสี่เหลี่ยมมากยิ่งขึ้นเหมือนเทียบกับรุ่นเดิม สามารถใช้งานได้ทั้งแนวนอนหรือแนวตั้ง โดยที่ด้านข้างและด้านบนจะมาพร้อมกับปุ่มการควบคุมต่างๆ และยังมีสายสําหรับหิ้วในการพกพาตัวลําโพงได้อย่างสะดวกเหมือนเดิมครับ อุปกรณ์ภายในกล่อง - JBL GO 4 - สาย USB-C - คู่มือการใช้งานเบื้องต้น การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้นลําโพง JBL GO 4 จะใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 โดยสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุดถึง 7 ชั่วโมง และชาร์จแบตเตอรี่ผ่านช่อง USB-C โดยใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 3 ชั่วโมง (ระยะเวลาการใช้งานขึ้นอยู่กับระดับเสียงและฟังก์ชันที่ใช้งาน) ภายในของลําโพง JBL GO 4 จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 1.75 นิ้ว พร้อม bass radiator โดยจะให้เสียงสไตล์ JBL เบสที่ฟังสนุก จัดเต็มทุกรายละเอียด โดยตัวลําโพงจะมีกําลังขับอยู่ที่ 4.2 วัตต์ครับ นอกจากนี้ตัวลําโพง JBL GO 4 ยังรองรับฟังก์ชันการใช้งานแบบสเตอริโอเมื่อเชื่อมต่อลําโพงสองตัวเข้าด้วยกันหรือจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันหลายๆตัวด้วยฟังก์ชัน Auracast เพื่อเพิ่มมิติเสียงในการใช้งาน นอกจากนี้ตัวลําโพงยังรองรับการตั้งค่าต่างๆ ได้ผ่าน JBL Portable app ได้เลยครับ ในส่วนของการป้องกันน้ํานั้นลําโพง JBL GO 4 จะออกแบบมาให้สามารถกันน้ําได้ในระดับ IP67 ทําให้สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างไร้กังวล โดยสามารถโดนน้ํากระเด็นใส่ได้อย่างสบายๆ แต่อย่างไรก็ตามตัวลําโพงจะไม่สามารถใช้งานใต้น้ําได้ สรุปเกี่ยวกับลําโพง JBL GO 4 โดยรวมแล้วลําโพง JBL GO 4 เป็นลําโพงพกพาที่มีดีไซน์การออกแบบขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาได้สะดวกมากๆ ตัวลําโพงจะรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายทั้งแบบสเตอริโอหรือ Auracast ป้องกันน้ําได้ในระดับ IP67 และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 7 ชั่วโมง การรับประกัน รับประกันศูนย์ไทย บจ.มหาจักรฯ 1 ปีจ้าๆๆ ข้อมูลจําเพาะ
Transducer: 45 mm /1.75” Output
power: 4.2 W RMS Frequency
response: 90 Hz – 20 kHz Signal-to-noise
ratio: > 85 dB Battery
type: Li-ion polymer 3.23 Wh (equivalent to 3.8 V / 850 mAh) Battery charge
time: 3 hours (5 V 1 A) Music play
time: up to 7 hours (dependent on volume level and audio content) Bluetooth
version: 5.3 Bluetooth
profile: A2DP V1.4, AVRCP V1.6 Bluetooth transmitter frequency
range: 2400 MHz – 2483.5 MHz Bluetooth transmitter
power: 9 dBm (EIRP) Bluetooth transmitter
modulation: GFSK, π/4 DQPSK Product Dimensions (W x H x
D) : 94.3 x 75.7 x 42.2 mm / 3.7 x 3.0 x 1.7” Product
Weight: 0.19 kg / 0.42 lbs Packaging Dimensions (W x H x
D) : 125 x 103 x 56.5 mm / 4.9 x 4.0 x 2.2” Gross
Weight: 0.32 kg / 0.69 lbs Maximum operation
temperature: 45 °C JBL
_x000D_
สี:PINK_x000D_
สําหรับใส่:หูฟัง_x000D_
วัสดุที่ใช้:Plastics Aluminium_x000D_ Bluetooth 5.0_x000D_ ** สําหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือสินค้าที่ต้องมีการติดตั้ง ** - กรณีพื้นที่ของท่านอยู่นอกระยะการจัดส่งเกิน 50 กิโลเมตรจากสาขาที่ใกล้ที่สุด จะมีค่าใช้จ่าย *เพิ่มเติม 10 บาทต่อกิโลเมตร* ชําระค่าจัดส่งปลายทางก่อนการรับสินค้าและติดตั้งเท่านั้น โดยสาขาที่จัดส่งจะเป็นผู้แจ้งค่าใช้จ่ายกับท่านก่อนจัดส่ง - กรณีที่พื้นที่การจัดส่งสินค้าอยู่ *บนเกาะ* และไม่มีสาขาเพาเวอร์บาย จะมีการเก็บค่าใช้จ่าย *เรือข้ามฟาก* ด้วย *เริ่มต้นที่ 500 บาท* ตามอัตราที่ท่าเรือ ณ วันนั้นๆ - การจัดส่งสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของสินค้า *ขอสงวนสิทธิ์ไม่จัดส่ง และ ติดตั้ง ที่จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส* และในพื้นที่ห่างไกลบางจังหวัด รวมถึงพื้นที่เข้าถึงได้ยาก หรือเนื่องมาจากสภาพถนน และสภาพอากาศ Sudio
Wave 300 TWS True Wireless หูฟังอินเอียร์ บลูทูธไร้สาย พร้อมไมโครโฟนในตัว
หูฟังจากทาง JBL ในรุ่น Under Armour STREAK เป็นหูฟังที่ได้รับการออกแบบร่วมกับทาง Under Armour ทําให้ตัวหูฟังมีดีไซน์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด สวมใส่สบาย มาพร้อมกับฟังก์ชัน Bionic Hearing ที่สามารถช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก และสามารถป้องกันน้ําได้ในระดับ IPX 7 การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้นหูฟัง JBL Under Armour STREAK นั้นเป็นหูฟัง in ear ชนิด true wireless ที่ทาง Under Armour ออกแบบร่วมกับทาง JBL นั่นเองครับ ตัวหูฟังถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ดีไซน์ให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด สวมใส่สบาย มีน้ําหนักเบา พกพาสะดวก ที่ตัวหูฟังทั้งสองข้างจะไม่มีปุ่มกดใดๆ ควบคุมผ่านระบบสัมผัสที่ข้างตัวหูฟัง โดยภายในกล่องจะมาพร้อมกับชุดจุกหูฟังและเคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ครับ อุปกรณ์ภายในกล่อง - JBL Under Armour STREAK - เคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ - ชุดจุกหูฟัง - ชุด Winged Enhancer - สาย USB - คู่มือการใช้งาน การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้นหูฟัง JBL Under Armour STREAK จะใช้การเชื่อมอย่างรวดเร็วผ่าน Bluetooth 5.0 โดยมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและเมื่อใช้งานร่วมกับเคสจะสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 18 ชั่วโมง ภายในของหูฟัง JBL Under Armour STREAK จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 5.8mm ที่ทาง JBL ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ทําให้สามารถตอบสนองความถี่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้รายละเอียด เสียงที่ครบถ้วน โดยจะเด่นไปที่เสียงเบสหนักแน่น และยังมาพร้อมกับไมโครโฟนคู่ที่สามารถใช้สนทนาได้อย่างคมชัดอีกด้วย นอกจากนี้หูฟัง JBL Under Armour STREAK ยังมีฟังก์ชัน Bionic Hearing ที่สามารถช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างแม้จะไม่ถอดหูฟังออก โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โหมดได้แก่ TalkThru จะเหมาะกับตอนที่ต้องการสนทนากับคนอื่น โดยตัวหูฟังจะดูดเสียงรอบข้างเข้ามาให้ทันที พร้อมกับการลดเสียงเพลงลง ทําให้สามารถสนทนาได้อย่างชัดเจน และโหมด Ambient Aware ที่ดูดเสียงรอบข้างเข้ามา แต่จะไม่ได้ลดเสียงเพลงลง ทําให้จะเหมาะกับตอนใช้ออกกําลังกายแต่ยังอยากได้ยินเสียงบรรยากาศรอบข้างไปด้วย และในส่วนของการกันน้ําหูฟัง JBL Under Armour STREAK จะมีเทคโนโลยี UA STORM ที่สามารถกันน้ําและ ฝุ่นละออง ได้ในระดับ IPX7 ทําให้สามารถใส่ออกกําลังกายหรือทํากิจกรรมกลางแจ้งได้แต่อย่างไรก็ตามตัวหูฟังจะไม่สามารถใส่อาบน้ําหรือใส่ว่ายน้ําได้ครับ คุณภาพเสียง ในส่วนของเสียงนั้นหูฟัง JBL Under Armour STREAK จะมีเบสที่มีมวลแน่นปะทะได้แรงให้เบสที่มาเป็นลูก ๆ จนรู้สึกได้ เก็บตัวได้ไวปานกลางเสียงร้องจะอิ่มหนา รายละเอียด ต่างๆคมชัดทําได้ดี ไม่มีเสียงเบสมาเบียดแม้แต่น้อยครับ ในขณะที่ย่านเสียงสูงจะมีเสียงที่จัดจ้านฟังเพลงที่เน้นจังหวะเร็ว ๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนเวทีเสียงจะมีขนาดปานกลาง โดยเครื่องดนตรีจะอยู่ชิดกัน แต่จะไม่ถึงกับซ้อนทับกัน และยังสามารถแจกแจงตําแหน่งได้อย่างดีครับ สรุปเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย JBL Under Armour STREAK โดยรวมแล้วหูฟังไร้สาย JBL Under Armour STREAK เป็นหูฟัง True Wireless สําหรับการออกกําลังกาย โดยที่ตัวหูฟังถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กพกพาสะดวก มาพร้อมกับฟังก์ชัน Bionic Hearing ที่สามารถช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก และเทคโนโลยี UA STORM ที่สามารถกันน้ําและ ฝุ่นละออง ได้ในระดับ IPX7 อีกด้วยครับ JBL